ยางที่เพิ่งผลิตใหม่ ดีกว่าจริงหรือ
ความรู้เรื่องยาง | คุยกันเรื่องยาง
ยางที่เพิ่งผลิตใหม่ ดีกว่าจริงหรือ
หากคุณกำลังมองหายางรถยนต์ใหม่ให้กับรถของคุณ คุณอาจเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการซื้อยางที่ผลิตใหม่ผ่านหูมาบ้าง อาจเคยมีบางคนบอกคุณว่า ยางที่มีอายุมากกว่า 1 ปีดีพอ ๆ กับยางที่หมดอายุการใช้งานแล้ว หรือบอกว่ายางจะเก่าและแข็งตัวหากไม่ได้ใช้งาน ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องเล่าเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ มาอ่านบทความด้านล่างกันต่อเลย

ความเชื่อที่ 1: หากวันที่ซื้อยางใกล้กับวันที่เพิ่งผลิตก็จะดีกว่า เพราะจะได้รับระยะเวลาการรับประกันยางที่นานกว่า
บริษัท บริดจสโตนเซสล์ (ประเทศไทย) จำกัด จะรับประกันสินค้าสินค้า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อยางใกล้หรือไกลจากวันที่ผลิต คุณก็ยังคงได้รับการรับประกันในระยะเวลาเดียวกัน โดยดูจากตัวเลขบนยางรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีโอกาสที่ยางของคุณจะสึกหรอไปตามการใช้งานก่อนจะหมดระยะเวลารับประกันเสียอีก ดังนั้นความกังวลเกี่ยวกับประกันจึงไม่ควรเป็นประเด็นหลักในการเลือกซื้อยางใหม่
เคล็ดไม่ลับ: ลงทะเบียนรับประกันยางออนไลน์ทันทีหลังจากท่านได้เลือกซื้อยางกับตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต คุณจึงจะมั่นใจได้ว่า ยางชุดใหม่ได้รับการผลิตโดยคำนึงถึงสภาพอากาศในภูมิภาค และควบคุมดูแลอย่างเข้มงวดตั้งแต่การจัดส่งไปถึงการจัดเก็บ
ความเชื่อที่ 2: ยางที่ผลิตมานานแล้ว สภาพจะไม่ดีเท่ายางรถยนต์ที่เพิ่งผลิตใหม่
ไม่เสมอไป แม้อายุยางจะเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา แต่ยางรถก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี ตราบใดที่มีการจัดเก็บอย่างเหมาะสม ตามหลักการแล้ว ยางควรถูกเก็บไว้ในสภาพที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ห่างไกลจากความชื้นและแสงแดดให้มากที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ยางรถยนต์คงสภาพสมบูรณ์ และมีอายุบนชั้นเก็บรักษาได้สูงสุดถึง 5 ปี ยางรถยนต์ที่มีอายุ 1 ปีถือว่าใหม่มาก ๆ หากถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
เคล็ดไม่ลับ: หากต้องการดูว่าทางร้านมีการจัดเก็บยางที่เหมาะสมหรือไม่ ให้สังเกตรอยแตกและรอยกรีดบนยางที่สามารถมองเห็นได้ และดูว่าทางร้านเรียงเก็บยางไว้อย่างดีหรือไม่ เพื่อความสบายใจของตัวคุณเอง ให้ซื้อยางบริดจสโตนจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเสมอ
ความเชื่อที่ 3: ยางทุกเส้นมีอายุเท่ากันโดยไม่เกี่ยวกับการจัดเก็บรักษา
ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้องนัก เมื่อยางรถยนต์มีอายุที่มากขึ้นก็จะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การออกซิเดชัน ซึ่งเป็นการที่ออกซิเจนทำปฏิกิริยากับสารประกอบในยาง ทำให้ยางรถแข็งตัว และเปราะไปตามอายุ ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่การออกซิเดชันในยางสามารถเกิดได้ทุกสภาพอุณหภูมิ แต่จะทำปฏิกิริยาเร็วขึ้น หากยางรถถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง ทำให้ยางมีอายุการใช้งานสั้นลง
เคล็ดไม่ลับ: หากรถของคุณจอดทิ้งไว้ และไม่ได้ใช้งานนานมากกว่า 2-3 สัปดาห์ ให้หาที่จอดรถที่ร่มรื่นและไม่ร้อน เช่น ที่จอดรถใต้ดินหรืออาคารจอดรถที่มีหลายชั้น เพื่อลดผลกระทบของการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและควรขยับรถบ้างเพื่อไม่ให้เกิดการกดทับของหน้ายางในบริเวณเดิมซ้ำ ๆ
ความเชื่อที่ 4: ยางผลิตใหม่ไม่จำเป็นต้องดูแลมากเท่ายางเก่า
ไม่จริงเลย ทุกกฎการดูแลรักษายางยังคงต้องใช้กับยางใหม่ด้วยเช่นกัน คุณจะต้องเช็กลมยางเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจในสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยในการขับขี่ นอกจากนี้ ทุก ๆ เดือน คุณควรจะตรวจสอบดอกยางเพื่อหารอยแตกหรือรอยเฉือนในยางด้วย ซึ่งอาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ
เคล็ดไม่ลับ: หากต้องการคำแนะนำ เกร็ดความรู้ต่าง ๆ และบทความเกี่ยวกับการดูแลรักษายางเพิ่มเติม คลิก ที่นี่
-
Rethink Green: Bridgestone Environmental Programs
Rethink Green: Bridgestone Environmental Programs
At Bridgestone, we're constantly looking for ways to do better by our environment. We've even dedicated the month of April (Earth Month, not coincidentally) to celebrating sustainable action. We call it Rethink Green, and it's a fun part of our One Team, One Planet initiative, which works to help ensure a healthy environment for current and future generations.
Learn More -
Teens Drive Smart Driving Experience
Teens Drive Smart Driving Experience
Bridgestone's Teens Drive Smart program includes a half-day driving experience, where teens get instruction from highly trained experts, helpful resources for parents and teachers and our ongoing blog with fresh updates and useful tips from our team.
Learn More -
Bridgestone Eco-Conscious Facilities
Bridgestone Eco-Conscious Facilities
At Bridgestone, we understand the importance of giving back to the community and protecting the environment. Our global environmental mission is to help ensure a healthy environment for current and future generations.
Learn More